“หมูกระทะป๊ะปุ๊ หมูกระทุปุ๊ป๊ะ” เพลงของหนูหรี่ ที่หลายคนคงเคยได้ยินผ่านหูกันมา และกลายมาเป็นเพลงยอดฮิตใน Social Media ทั้ง Instagram, Facebook และ Tiktok เพราะเนื้อเพลงได้มีการพูดถึงอาหารประจำชาติไทย (สมัยใหม่) อย่างหมูกระทะ ที่คนไทยทานกันอยู่บ่อยๆ นั่นเอง
.
หลายคนอาจจะสงสัยถึงต้นกำเนิดของ “หมูกระทะ” ว่าแท้จริงแล้ว อาหารยอดนิยมประเภทนี้ ที่โด่งดังไปทั่วโลก มีต้นตำรับจากไทยหรือประเทศไหนกันแน่ วันนี้ พิชชามีท จะมาไขข้อสงสัยให้ทุกคนกัน
.
ต้นกำเนิดหมูกระทะ
ตำนานเล่าขานกันว่า หมูกระทะ เกิดขึ้นในสมัย มองโกล ในสมัยนั้นมีสงครามกันมากมาย และแน่นอนว่า กองทัพย่อมต้องเดินด้วยท้อง ความคิดสร้างสรรค์ของทหารมองโกลเลยเกิดขึ้น ด้วยการนำหมวกทหารที่เป็น “เหล็ก” มีลักษณะโค้งมนตรงกลาง หรือเรียกว่า “Mongol Ancient Military Hat” มารองเป็นกระทะเพื่อใช้ “ย่างเนื้อ” แต่ทั้งหมดก็ยังคงเป็นตำนานที่ยังไม่มีหลักฐานยืนยันชัดเจน
.
ต่อมา ได้เจอบันทึกที่ค้นพบครั้งแรก กล่าวว่า ตำนานหมูกระทะ เกิดขึ้นที่ที่ฮอกไกโด ประเทศญี่ปุ่น ในปี พ.ศ. 2461 สมัยนั้นมีการเลี้ยงแกะอย่างมากเพื่อนำหนังแกะไปใช้ ทำให้เนื้อแกะล้นตลาด รัฐบาลญี่ปุ่นเลยส่งเสริมให้บริโภคเนื้อแกะ จนถึงปี พ.ศ. 2479 มีการเปิดร้านอาหารใช้ชื่อร้านว่า “ร้านเจงกิสข่าน” และเริ่มขายอาหารลักษณะคล้ายหมูกระทะ แต่เป็นเนื้อแกะแทน เรียกกันว่า “เนื้อย่างเจงกิสข่าน”
.
สำหรับประเทศไทย หลายคนอาจเข้าใจผิดว่า ต้นกำเนิดของ “หมูกระทะ” เริ่มในสมัยอยุธยา ดังที่ปรากฎในละคร “บุพเพสันนิวาส” ซึ่งนางเอก หรือ แม่หญิงการะเกด ได้สั่งทำกระทะสำหรับหมูกระทะกับ “จีนฮง” ที่ตลาด
.
แต่หากอ้างอิงตามหลักฐานและข้อมูล สำหรับการนำเข้าของ “หมูกระทะ” ในประเทศไทยนั้น คาดว่าเริ่มขึ้นในสมัย พ.ศ. 2500 โดยเปิดขายในภัตตาคาร และใช้ชื่อเมนูว่า “เนื้อย่างเจงกีสข่าน” และในปี พ.ศ. 2510 มีร้านเนื้อย่างเกาหลีเจ้าแรก ที่จังหวัดนครราชสีมา ชื่อว่า “โอเนื้อย่างเกาหลี” โดยมีการเสิร์ฟลักษณะเป็นชุด จากเนื้อแกะย่าง มาเป็นเนื้อย่างเกาหลี และวิวัฒนาการมาเรื่อยๆ จนกลายเป็น “เมนูหมูกระทะ” เมนูยอดฮิตของคนไทยในปัจจุบัน ที่มีหลากหลายรูปแบบตามไลฟ์สไตล์และความชื่นชอบส่วนบุคคล ทั้งเมนูเนื้อหมู เนื้อไก่ เนื้อวัว อาหารทะเล และอีกหลากหลายเมนูที่มารังสรรค์ให้กลายเป็นมื้อสุดพิเศษได้
ปัจจุบัน หมูกระทะ ไม่ได้เป็นเมนูยอดฮิตแค่ในประเทศไทยเท่านั้น แต่ “เมนูหมูกระทะ” แบบ “ไทย” ได้กลายเป็นความอร่อยที่ส่งออกไปทั่วโลก อาทิ รายการทีวีญี่ปุ่น “Good morning” ก็ได้นำเสนอร้านหมูกระทะแห่งแรกในกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากประเทศไทย แต่หมูกระทะนั้น ก็ยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จักในหมู่คนญี่ปุ่นเท่าอาหารประเภทอื่นอย่างต้มยำ หรือแกงเขียวหวาน หากใครอยากลองทาง “หมูกระทะ” ที่ญี่ปุ่นก็ลองไปแวะทานได้ที่ร้าน Muu Tokyo หรือในประเทศเกาหลี ก็มีร้านหมูกระทะไทยมาเปิดให้บริการ ร้านเป็นแบบนั่งดื่มในเต็นท์ หรือที่เค้าเรียกกันว่า โพจังมาชะ (포장마차) ซึ่งร้านนี้ก็เริ่มมาจากที่เพจ JBHRstory ของคู่รักชาวไทย-เกาหลี และกลายมาเป็นไวรัลใน Social Media ของคนเกาหลี
.
แล้ว “เมนูหมูกระทะ” เนื้อหมูส่วนไหน “ฟิน” ที่สุด
สำหรับคนที่อยากทานหมูกระทะแบบทำเอง หรือไปทานที่ร้าน แล้วอยากรู้ว่า เนื้อแต่ละส่วนของหมูที่นำมาทำหมูกระทะ ส่วนไหนจะอร่อย ตอบโจทย์คนกินกันบ้าง วันนี้จะไปทำความรู้จักความพิเศษและอร่อยของแต่ละส่วนกัน
1. “สันในหมู” เป็นส่วนที่นุ่มมากที่สุด ไม่มีมันแทรกแต่เนื้อนุ่มที่สุด อร่อยแบบฟินไปเลย
2. “สันนอกหมู” คือเนื้อตรงช่วงกลางลำตัว มีไขมันแทรกบริเวณริม ๆ มีความแน่นกว่าส่วนอื่น และจะมีความนุ่มในระดับหนึ่ง แต่น้อยกว่าสันในหมู
3. “สันคอหมู” จะอยู่ด้านบนตัวหมูถัดจากหัวหมู ส่วนนี้จะมีมันแทรกเนื้อ เนื้อจึงค่อนข้างนุ่ม ชุ่มฉ่ำ มักนิยมนำไปสไลด์บางสำหรับทำหมูกระทะ ชาบู ซึ่งเนื้อสันคอมีความนิ่ม อร่อยมาก
4. “หมูสามชั้น” ส่วนของเนื้อหมูที่เป็นที่นิยมของใครหลายคน เพราะมีชั้นหนัง เนื้อ และไขมัน สลับกัน ทำให้ได้รสสัมผัสที่หลากหลาย
.
ทั้งหมดนี้คือ เมนู “หมูกระทะไทย” ตำนานความอร่อยที่ดังไปไกลทั่วโลก จะไปทานข้างนอกบ้านก็ดี หรือทำเองที่บ้านทานกับครอบครัวก็สนุก ได้บรรยากาศอบอุ่นไปอีกแบบ แล้วหากคุณต้องทำเองที่บ้าน เราขอแนะนำเนื้อหมู “พิชชามีท” เรา “ผลิตสดใหม่ทุกวัน” และ “สะอาดสุด ทุกขั้นตอน” เพราะเราคำนึงถึง “คุณภาพต้องมาที่ 1” พร้อมทำให้หมูกระทะของคุณ เป็นมื้ออาหารสุดอร่อยและพิเศษ
This website uses cookies so that we can provide you with the best user experience possible. Cookie information is stored in your browser and performs functions such as recognising you when you return to our website and helping our team to understand which sections of the website you find most interesting and useful.