การมีร้านอาหารสไตล์ยุโรปเป็นของตัวเอง คงเป็นความใฝ่ฝันของใครหลายคน เนื่องจาก อาหารยุโรปมีรสชาติที่อร่อย ถูกปากคนไทย อีกทั้งยังมีกรรมวิธีการปรุงรสที่หลากหลาย ตอบโจทย์เชฟมือใหม่ไฟแรง ที่มีใจรักในการทำอาหาร และอยากรังสรรค์เมนูหมูที่มีความโดดเด่น ไม่ซ้ำใคร ไว้คอยมัดใจลูกค้าใหม่ ๆ อยู่เสมอ สำหรับใครที่ใฝ่ฝันอยากมีร้านอาหารเป็นของตัวเอง และต้องการศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการทำอาหารสไตล์ตะวันตกเบื้องต้น

บทความนี้ พิชชามีท จะมาแนะนำเทคนิคทำอาหารสไตล์ตะวันตก ให้รสชาติอร่อยเหมือนต้นฉบับ พร้อมกับแนะนำเมนูหมูสไตล์ยุโรป เพื่อให้ผู้ประกอบการหน้าใหม่ ได้แนวทางในการรังสรรค์เมนูมัดใจลูกค้า จะมีเกร็ดเล็ก เกร็ดน้อยอะไรที่น่าสนใจบ้าง หากพร้อมแล้ว เราไปดูกัน

เทคนิค ทำเมนูหมูสไตล์ตะวันตก ให้อร่อยได้รสชาติเหมือนต้นฉบับ

ก่อนที่จะไปจับตะหลิวเข้าครัว ลองมาเรียนรู้เทคนิคที่เกี่ยวข้องกับการทำเมนูหมูสไตล์ตะวันตกกันก่อน เพื่อให้เจ้าของร้านอาหารได้เข้าใจถึงแก่นการทำอาหารสไตล์ยุโรปอย่างลึกซึ้ง และนำเทคนิคต่าง ๆ ไปต่อยอดในธุรกิจของตนเอง

รวมถึงสร้างสรรค์เมนูซิกเนเจอร์ประจำร้านได้อย่างง่ายดาย ซึ่งบางเทคนิคก็สามารถนำมาปรับใช้กับการทำอาหารไทย อาหารเอเชีย และอาหารฟิวชันได้อีกด้วย จะมีเทคนิคอะไรที่น่าสนใจบ้าง เรามาดูกัน

• คาราเมลไลซ์

คาราเมลไลซ์ (Caramelized) ไม่ใช่การปรุงอาหารโดยใส่คาราเมลเป็นส่วนประกอบหนึ่งของอาหาร เหมือนกับที่หลายคนเข้าใจ แต่เป็นเทคนิคที่นำวัตถุดิบไปทอดบนกระทะเรื่อย ๆ จนมีลักษณะข้น หนืด และมีสีเหลืองเข้ม เหมือนคาราเมล 

อย่างไรก็ตาม เทคนิคคาราเมลไลซ์จำเป็นต้องใช้ความชำนาญในการปรุงอาหาร และมีความเชี่ยวชาญในการใช้กระทะอย่างมาก เพราะหากคำนวณความร้อนของไฟได้ไม่ดี อาจทำให้วัตถุดิบไหม้ได้ โดยส่วนใหญ่เรามักจะเห็นการคาราเมลไลซ์กับหอมใหญ่ เพื่อเคี่ยวเป็นผักแกล้มในเมนูสเต๊กหมูที่มีรสชาติเข้มข้น

• กงฟีต์

หากใครที่เคยรับชมรายการทำอาหารอยู่เป็นประจำ คงเคยได้ยินเทคนิคการทำอาหารแบบกงฟีต์ (Confit) อย่างแน่นอน ซึ่งหลักการทำกงฟีต์ คือ การนำวัตถุดิบต่าง ๆ ไปต้มด้วยน้ำมันในอุณหภูมิ 75 องศาเซลเซียส เพื่อให้เนื้อสัตว์สุกด้วยความร้อนต่ำ และเพิ่มความชุ่มฉ่ำให้กับวัตถุดิบ 

ด้วยเหตุนี้ เทคนิคกงฟีต์ จึงเหมาะกับการตุ๋นเนื้อสัตว์ที่มีความเหนียว และแห้งได้ดีมาก โดยวัตถุดิบที่เหมาะแก่การนำมาทำกงฟีต์ จะต้องมีน้ำหนักของเนื้อที่ปราศจากไขมันไม่น้อยกว่า 55% ของน้ำหนักโดยรวมทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น เนื้อวัว เนื้อห่าน เนื้อเป็ด ไก่งวง เนื้อกระต่าย และเนื้อหมูส่วนสะโพก เป็นต้น

• เซียร์

สำหรับผู้ประกอบการที่ฝันอยากเปิดร้านสเต๊ก ลองมาทำความรู้จักกับเทคนิคการเซียร์ (Sear) ซึ่งจะเป็นการนำวัตถุดิบมาจี่บนกระทะที่มีความร้อนสูง จากนั้นพลิกกลับไปมาด้วยความรวดเร็ว เพื่อให้วัตถุดิบมีสีน้ำตาลเกรียมสวยงาม เหมือนกับสเต๊กของร้านอาหารในโรงแรมระดับ 5 ดาว

อย่างไรก็ตาม เทคนิคการเซียร์เหมาะกับการปรุงเนื้อวัว และเนื้อแกะ เนื่องจาก เป็นวัตถุดิบที่สามารถทานดิบได้ แต่หากต้องการประยุกต์ใช้กับเนื้อหมู ก็สามารถเซียร์เนื้อหมูให้มีสีน้ำตาลเกรียม จากนั้นนำไปเข้าเตาอบให้เรียบร้อย เพื่อให้วัตถุดิบถูกปรุงสุกทั้งชิ้น โดยที่ไม่มีส่วนไหนดิบ

• รูลาด

ในส่วนของเทคนิครูลาด (Roulade) เป็นการนำเนื้อหมูมาม้วนให้เป็นก้อน พร้อมกับสอดไส้ด้วย ชีส ผัก หรือเนื้อสัตว์ประเภทอื่น ๆ เป็นต้น จากนั้นนำไปทำให้สุกด้วยการอบในเตาอบ ซึ่งเทคนิคสำคัญในการทำรูลาด คือ การม้วนแผ่นพลาสติกให้เป็นรูปไส้กรอก แล้วรัดหัว และปลายให้เรียบร้อย เพื่อป้องกันไม่ให้วัตถุดิบแยกออกจากกัน

• ซูวี

สำหรับเทคนิคการซูวี (Sous Vide) ถือเป็นเทคนิคทำอาหารสไตล์ยุโรปที่หลายคนคงคุ้นหูกันอยู่ไม่น้อย โดยเทคนิคดังกล่าว จะเป็นการนำวัตถุดิบใส่ในถุงสุญญากาศสำหรับซูวีโดยเฉพาะ แล้วไล่อากาศออกด้วยน้ำ หรือเครื่องซีลสุญญากาศ จากนั้นนำไปแช่ในน้ำที่อุณหภูมิเหมาะกับขนาด และชิ้นของเนื้อ

ซึ่งวิธีการซูวีจะสามารถควบคุมอุณหภูมิ และระดับความสุกของเนื้อได้อย่างแม่นยำ ทั้งยังช่วยรักษาความชุ่มฉ่ำของเนื้อสัตว์ได้เป็นอย่างดี เหมาะกับการประกอบอาหารหลากหลายเมนู ไม่ว่าจะเป็น สเต๊กหมู โยเกิร์ต ครีมชีส และไข่ออนเซ็น เป็นต้น

• เทอร์รีน

อีกหนึ่งในเทคนิคการทำอาหารตะวันตก ที่ผู้ประกอบการทุกคนควรทำความเข้าใจ คงจะหนีไม่พ้นเทคนิคเทอร์รีน (Terrine) ซึ่งเป็นการนำเอาเนื้อหมู หรือผักบดปรุงรสให้เรียบร้อย

จากนั้นนำไปขึ้นรูปใหม่ในภาชนะทรงสี่เหลี่ยม แล้วนำไปปรุงให้สุกผ่านการอบแบบรองน้ำ เพื่อป้องกันไม่ให้เนื้อไหม้ โดยวิธีการเทอร์รีน จะทำให้เนื้อที่นำไปอบมีรสชาติอร่อย นุ่ม และคงความฉ่ำเอาไว้อย่างครบถ้วน

รวมเมนูหมูสไตล์ยุโรป รสชาติดี ปรุงรสง่าย มือใหม่ก็ทำได้

หลังจากที่ได้เรียนรู้เทคนิคการทำอาหารสไตล์ตะวันตกกันไปแล้ว ผู้ประกอบการคนไหนที่กำลังมุ่งมั่นหาสูตรอาหาร เตรียมมัดใจลูกค้าตั้งแต่วันแรกที่เริ่มเปิดร้าน ลองมาดูเมนูหมูสไตล์ยุโรป ที่พิชชามีทได้เตรียมไว้ให้ รับรองเลยว่าแต่ละเมนูทำง่าย ฝึกทำตามได้ไม่ยาก แถมถูกปากคนไทยทุกเมนู

• สเต๊กหมู

เข้าครัวกันมาด้วยจานแรกกับสเต๊กหมู เมนูหมูสุดเบสิกที่คนฝึกทำอาหารต้องเคยทำ โดยหลักการทำสเต๊กให้อร่อยเหมือนกันทุกจาน ควรเริ่มตั้งแต่การเลือกชิ้นเนื้อหมูที่มีความหนาเท่ากัน จากนั้นนำไปย่างด้วยไฟกลาง เมื่อเนื้อสุกเท่ากันทุกด้านแล้ว ให้ห่อเนื้อด้วยกระดาษอะลูมิเนียมฟอยล์ เสร็จแล้ววางทิ้งไว้ประมาณ​ 2-4 นาที เพื่อคงความชุ่มฉ่ำของเนื้อหมูไว้

อย่างไรก็ตาม หากต้องการสร้างจุดเด่นให้กับร้านของคุณ ก็สามารถลองคิดค้นสูตรซอส และเครื่องเคียงประจำร้าน ด้วยการนำไวน์แดงมาผสมกับผลไม้รสเปรี้ยวของไทย หรืออาจนำหัวหอม กับแครอทไปปรุงสุกด้วยการคาราเมลไลซ์ เพื่อดัดแปลงเมนูสุดหรูจากยุโรป ให้กลายเป็นอาหารฟิวชันที่มีรสชาติไทยแท้ผสมผสานได้อย่างลงตัว

• ซี่โครงหมูบาร์บีคิว

เมนูหมูจากยุโรปที่อยู่คู่คนไทยมาอย่างยาวนาน คงหนีไม่พ้นซี่โครงหมูบาร์บีคิว ซึ่งเป็นเมนูที่มีรสชาติเข้มข้น และใช้วัตถุดิบน้อย เพียงแค่นำชิ้นส่วนหมูส่วนต่าง ๆ ไปซูวีให้มีความชุ่มฉ่ำ พร้อมกับทำซอสบาร์บีคิวเคลือบเนื้อหมู จากนั้นนำไปอบในเตาอบให้เรียบร้อย เรียกได้ว่าเป็นเมนูที่เหมาะแก่การทำเสิร์ฟในร้านอาหารอย่างแท้จริง

• สตูหมูไวน์แดง

หากผู้ประกอบการคนไหนตั้งใจอยากเปิดร้านอาหารฝรั่งเศส และยังไม่มีทักษะการทำอาหารเท่าไหร่นัก ลองมาฝึกทำสตูหมูไวน์แดง เมนูหมูสไตล์ฝรั่งเศสขั้นพื้นฐานที่ทำได้ง่าย ด้วยการนำเนื้อหมู มาตุ๋นกับไวน์แดง และผักต่าง ๆ ให้เข้ากัน แล้วเสิร์ฟคู่กับมันบดเนื้อเนียนนุ่ม เพียงเท่านี้ก็จะได้เมนูหมูสุดเบสิกมามัดใจลูกค้าแล้ว 

• วาแรนือกือ

มาต่อกันที่ วาแรนือกือ (Vereniki) เมนูหมูนำเข้าจากประเทศยูเครน ซึ่งมีรูปร่างคล้ายคลึงกับเกี๊ยวหมูทั่วไป แต่ความพิเศษของวาแรนือกือ จะอยู่ตรงที่ไส้ในเกี๊ยว ซึ่งทำมาจากมันฝรั่งผสมกับเนื้อหมู และเบคอน แล้วทานคู่กับซอสสเมทาน่า (Smetana) หรือซอสซาวครีมสไตล์ยูเครน เรียกได้ว่าใครที่อยากปั้นร้านอาหารให้เป็นจุดเด่น ลองฝึกทำเกี๊ยวหมูจากยูเครนกันได้เลย

• กีรอส

สำหรับใครที่อยากขายพัฟ หรือเคบับ แต่ไม่อยากให้เมนูในร้านของคุณซ้ำซาก และจำเจ ลองมาฝึกทำกีรอส (Gyros) เมนูหมูประจำชาติจากประเทศกรีซ ที่มีลักษณะคล้ายคลึงกับเคบับ แต่จะม้วนด้วยขนมปังแผ่นเรียบ พร้อมกับยัดไส้ด้วยเนื้อหมูที่ผ่านกรรมวิธีการหมัก ด้วยเครื่องเทศ พร้อมกับใส่เครื่องเคียง เช่น มะเขือเทศ หัวหอม และซอสซีดซีจี (Tzatziki) ซึ่งเป็นซอสที่ทำมาจากโยเกิร์ต และผักประจำท้องถิ่น

เป็นอย่างไรกันบ้าง กับเทคนิคทำอาหารสไตล์ยุโรปขั้นพื้นฐาน ที่ผู้ประกอบการมือใหม่ทุกคนควรเรียนรู้ และทำความเข้าใจในกรรมวิธีการทำอาหารอย่างลึกซึ้ง หวังว่าผู้ประกอบการทุกท่านจะได้ไอเดียใหม่ ๆ ไปต่อยอด เพื่อปลุกปั้นธุรกิจของคุณให้ปัง และดึงดูดใจลูกค้าตั้งแต่วันแรกที่เริ่มเปิดร้าน

สำหรับผู้ประกอบการคนไหนที่ยังไม่มีเนื้อหมูคุณภาพดีที่สด ใหม่ สะอาด ก็อย่าลืมนึกถึงพิชชามีท เรามีเนื้อหมูคุณภาพดี ได้มาตรฐาน ปลอดสารเร่งเนื้อแดง ที่เหมาะกับการนำไปรังสรรค์เมนูหมูได้หลากหลาย การันตีได้เลยว่าลูกค้าจะได้ทานอาหารที่สดใหม่อย่างแน่นอน หากใครที่สนใจสามารถติดต่อสั่งซื้อได้ที่ Line: @pitchameat