บทความ

มัดรวม! เมนูหมูสไตล์ญี่ปุ่น ลงทุนน้อย มือใหม่ก็ทำได้

เมนูหมู

เนื้อหมู เป็นวัตถุดิบสุดฮิตในประเทศญี่ปุ่น ไม่แพ้ไปกว่าเนื้อวัว อย่าง หมูคุโรบุตะที่เป็นที่รู้จักทั่วโลก อีกทั้งเนื้อหมูสามารถนำมาประกอบอาหารได้อย่างหลากหลาย ทั้งการผัด การทอด รวมถึงเมนูเส้น โดยเมนูหมูที่ได้รับความนิยมในญี่ปุ่น เช่น หมูทอดทงคัตสึ คัตสึด้ง และราเม็ง ซึ่งทั้งสามเมนูนี้ถือเป็น เมนูชูโรงให้กับอาหารประเทศญี่ปุ่นสู่สายตาชาวโลกนอกเหนือจากซูชิ และซาซิมิ

อย่างไรก็ตาม หากต้องการเปิดร้านอาหารญี่ปุ่น แต่ไม่ทราบถึงแหล่งวัตถุดิบ และแนวทางเริ่มต้นในการเปิดร้านอาหารญี่ปุ่น บทความนี้พิชชามีทขออาสาพาทุกคนไปรู้จักกับเมนูหมูสไตล์ญี่ปุ่นที่ใคร ๆ ก็สามารถทำตามได้ โดยใช้เงินลงทุนไม่มาก จะมีอะไรบ้าง ตามมาดูกันได้

ทำความรู้จัก ที่มาเมนูหมูญี่ปุ่น จากดินแดนที่เคยขึ้นชื่อ มังสวิรัติ

ในอดีตประเทศญี่ปุ่นขึ้นชื่อว่า เป็นดินแดนแห่งมังสวิรัตินับตั้งแต่ ปี ค.ศ. 675 หรือยุคอาซูกะ สมเด็จพระจักรพรรดิเท็นมุ ได้ออกกฎห้ามชาวญี่ปุ่นบริโภคเนื้อสัตว์บกขนาดใหญ่ เช่น วัว ลิง ไก่  และหมูในช่วงเดือนเมษายนถึงเดือนกันยายน ทำให้ช่วงนั้นชาวญี่ปุ่นหันมาบริโภคเนื้อปลา และบรรดาสัตว์ในทะเลแทน จนเมื่อเวลาผ่านไป การบริโภคเนื้อสัตว์กลายเป็นเรื่องที่ผิดสำหรับชาวญี่ปุ่น ซึ่งมีการลงโทษอย่างจริงจัง ทั้งนี้เป็นผลมาจากในช่วงเวลานั้นเป็นยุคทองของศาสนาพุทธ ที่มีคำสอนเกี่ยวกับการเวียนว่ายตายเกิดในสังสารวัฏ

ซึ่งพอนานวันเข้าทำให้ประเทศญี่ปุ่นไม่บริโภคเนื้อสัตว์บกขนาดใหญ่ เป็นเวลากว่า 1,200 ปี อย่างไรก็ตาม หลังจากประเทศญี่ปุ่น เปิดประเทศในปี ค.ศ. 1853 หรือในช่วงต้นของยุคเมจิ นับเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ประเทศญี่ปุ่นกลับมาทานเนื้อสัตว์อีกครั้ง เนื่องจากอำนาจ และวัฒนธรรมของชาวต่างชาติที่เข้ามา จึงได้เปลี่ยนแนวคิด และมุมมองต่อการบริโภคเนื้อสัตว์ จะเห็นได้ว่าระยะเวลาผ่านมาเพียง 170 กว่าปีเท่านั้น ที่ชาวญี่ปุ่นเริ่มบริโภคเนื้อสัตว์

สำหรับวัฒนธรรมการบริโภคเนื้อหมู เริ่มเป็นที่แพร่หลายในปีเมจิที่ 5 โดยรัฐบาลญี่ปุ่นเริ่มนำวิธีการเลี้ยงหมู แบบตะวันตกเข้ามาใช้ในประเทศญี่ปุ่น อีกทั้งในช่วงสงคราม เนื้อหมูเข้ามามีบทบาทแทนเนื้อวัวที่ขาดแคลน และได้กลายจุดกำเนิดเมนูหมูทอดทงคัตสึอีกด้วย เมื่อสงครามโลกสิ้นสุด การเลี้ยงหมูเพื่อบริโภคก็ได้กระจายไปยังภูมิภาคต่าง ๆ ของประเทศญี่ปุ่น 

ทริคการตลาดร้านอาหาร สำหรับแม่ครัวมือใหม่งบน้อย

การเริ่มต้นทำร้านอาหาร มักพบเจอปัญหาเรื่องการตลาดที่ไม่ประสบความสำเร็จ เช่น ร้านอาหารไม่เป็นที่รู้จัก หรือลูกค้ามีจำนวนน้อย แม้รสชาติของอาหารจะดีเลิศขนาดไหนก็ตาม ดังนั้น ขอแนะนำทริคการทำการตลาดให้ดึงดูดใจลูกค้าเข้าร้าน ดังต่อไปนี้

  • โปรโมชัน 

สำหรับการเปิดร้านอาหาร ในช่วงแรกเพื่อดึงกลุ่มลูกค้า และทำให้ร้านเป็นที่รู้จัก คือการทำโปรโมชันที่อาจช่วยกระตุ้นยอดขายได้ เช่น ลดราคาพิเศษของอาหาร, โปรซื้อ 1 แถม 1 และการทำบัตรสะสมแต้ม เพื่อตอบแทนให้กับกลุ่มค้าที่มีการความภักดี (Loyalty) ต่อร้าน ทั้งนี้ อย่างลืมปรับโปรโมชันอยู่ตลอด เพื่อทราบถึงความต้องการของลูกค้า 

  • เดลิเวอรี

พฤติกรรมของผู้บริโภคในยุคใหม่เปลี่ยนไปเป็นอย่างมาก ซึ่งนิยมสั่งอาหารผ่านเดลิเวอรี เช่น Grab Line Man Shopee และ Food Panda โดยไม่ต้องซื้ออาหารที่หน้าร้าน ทั้งนี้เป็นผลมาจากการมาตรการ Lockdown ของประเทศในช่วงการระบาดของโควิด 

ทั้งนี้ การเปิดร้านอาหารบนแพลตฟอร์ม Food Delivey  สามารถช่วยให้ร้านอาหารเปิดใหม่ มีลูกค้าเข้าถึงร้าน และเป็นที่รู้จักได้ แม้ร้านอาหารตั้งอยู่ในทำเลที่ไม่ดี อีกทั้งแพลตฟอร์มเหล่านี้ มีโปรโมชันที่น่าดึงดูด เช่น การส่งอาหารฟรี หรือลดค่าอาหารเมื่อสั่งถึงยอดที่กำหนด จะช่วยเปิดโอกาสให้ผู้คนได้ลองอาหารใหม่ ๆ 

  • การยิงแอด

กลยุทธ์ทางการตลาดที่ขาดไม่ได้ สำหรับการทำธุรกิจยุคใหม่ คือ การยิงแอด หรือการโฆษณาทางออนไลน์ เป็นการช่วยขยายฐานลูกค้า เพื่อทำให้ลูกค้าสามารถรู้จักร้าน และกระตุ้นให้เกิดการซื้อ เพราะในยุคสมัยนี้ ผู้คนส่วนใหญ่มักเลือกร้านหารตามรีวิวบนโซเชียลมีเดีย ไม่ว่าจะเป็น TikTok Facebook Instagram และ X (Twitter)

นอกจากแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย  ก็สามารถยิงแอดผ่านแพลตฟอร์ม Food Delivery ที่ตรงตามความต้องการอย่างชัดเจนของผู้บริโภค ทำให้การยิงแอดนั้นคุ้มค่า ซึ่งมีราคาในการยิงโฆษณาต่อวันไม่ถึงร้อยบาท และการยิงแอด ผ่าน Google Ads ที่สำคัญไม่แพ้กว่าแพลตฟอร์มอื่น ๆ

  • ความน่าเชื่อถือ

การสร้างความน่าเชื่อถือสำหรับร้านอาหาร สามารถทำได้ 2 วิธี โดยวิธีแรก คือ การสร้างตัวตนบนโลกออนไลน์ ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญของการทำร้านอาหาร ด้วยการสร้างบัญชีของร้านอาหาร บนแพลตฟอร์ม Facebook Instagram TikTok และ YouTube เป็นต้น อีกทั้งการสร้างหมุดร้านใน Google My Business ที่ช่วยลูกค้าค้นหาร้านอาหารใกล้ฉัน แล้วพบร้านอาหารของเรา 

ในส่วนวิธีที่สอง คือ การทำให้ลูกค้าเห็นรีวิวด้านบวกของร้าน เพราะลูกค้ามักหารีวิวเกี่ยวกับร้าน หรือดูคะแนนรีวิว หากมีคะแนนรีวิวที่สูง ก็ยิ่งส่งผลให้ลูกค้าตัดสินใจซื้ออาหารของร้านมากเท่านั้น 

เป็นอย่างไรกันบ้าง สำหรับทริคการตลาดสำหรับร้านอาหาร โดยเป็นวิธีที่สามารถทำตามได้ง่าย และใช้งบประมาณที่น้อย เหมาะสำหรับผู้ที่กำลังจะเริ่มกิจการทำร้านอาหาร ก็สามารถนำไปปฏิบัติตามได้ นอกจากนี้ ควรให้ความสำคัญกับการบริการ ซึ่งวิธีนี้ก็เป็นอีกวิธีช่วยให้ร้านกลายเป็นที่บอกต่อจนเป็นที่รู้จักในวงกว้างได้

รวม 4 เมนูหมูสไตล์ญี่ปุ่นสุดฮิต ทำตามง่าย ด้วยงบไม่กี่ร้อย

หลังจากรู้ทริคการตลาดร้านอาหาร สำหรับมือใหม่ ต่อไปเราขอแนะเมนูหมู สไตล์ญี่ปุ่น ที่ทางพิชชามีทได้คัดสรรมาเป็นอย่างดี ซึ่งสามารถทำได้ง่าย และยังใช้ต้นทุนน้อย เหมาะกับผู้ที่กำลังหาเมนูหมูสไตล์ญี่ปุ่น เพิ่มในลิสต์อาหารของร้าน ซึ่งมีเมนูดังนี้

  • ทงคัตสึ

ทงคัตสึ (Tonkatsu) มาจากคำว่า ทง ที่แปลว่าหมู และคัตสึ แปลว่า เนื้อทอด หรือเรียกว่าเมนูหมูทอดนั่นเอง เป็นเมนูที่นำเนื้อหมูไปคลุกกับแป้งและไข่ หลังจากนั้นไปคลุกกับเกล็ดขนมปัง และลงนำไปทอดในกระทะร้อน ๆ เพียงเท่านี้ ก็สามารถนำมารับประทานได้แล้ว

ซึ่งมักนำไปทานร่วมกับข้าว และซุปมิโสะร้อน ๆ พร้อมเครื่องเขียงอย่าง ผักกะหล่ำปลีซอย โดยส่วนของหมูที่นิยมนำมาใช้คือ สันนอก เป็นส่วนที่มีปริมาณไขมันแทรกอยู่ในเนื้อน้อย อีกทั้งเมื่อทอดทงคัตสึ หมูจะมีความกรอบนอกนุ่มใน และหวานหอม   

  • คัตสึดง

คัตสึดง (Katsudon) หรือข้าวหน้าหมูทอด เป็นเมนูหมูยอดฮิตของชาวญี่ปุ่น ซึ่งเมนูคัตสึด้ง มาจากการต่อยอดของเมนูทงคัตซึ นำมาทำเป็นอาหารจานเดียว โดยความเชื่อของชาวญี่ปุ่นถือเคล็ดที่ว่า ต้องบริโภคคัตสึด้งในคืนก่อนวันสำคัญ เช่น วันสอบ หรือวันสมัครงาน ที่อาจช่วยเสริมกำลังใจก่อนเริ่มวัน จากความหมายของคำว่าคัตสึ ที่แปลว่าชัยชนะ 

  • คัตสึคะเร

คัตสึคะเร (Katsu Kare) เป็นอีกเมนูหมู ที่ถูกต่อยอดจากเมนูทงคัตสึ แต่เป็นการใส่คะเร หรือแกงกะหรี่ราดลงไปบนหมูทอด ซึ่งสามารถใช้ก้อนแกงกะหรี่สำเร็จรูปผสมน้ำ หรือหากต้องการทำเอง มีวัตถุดิบที่ต้องเตรียม เช่นช็อกโกแลต แอปเปิล น้ำผึ้ง กาแฟ และ น้ำมันหอย เป็นต้น โดยธรรมเนียมการบริโภคแกงกะหรี่ของคนญี่ปุ่น คือการพักแกงกะหรี่ไว้หนึ่งคืน เพื่อให้รสชาติเข้มข้นยิ่งขึ้น

  • สุกียากี้

สุกียากี้ (Sukiyaki) สำหรับคนญี่ปุ่นเรียกว่า Nabemono Style คือการใส่ทุกอย่างลงไปพร้อมกันทีเดียวในหม้อ เช่น เนื้อหมู และผักต่าง ๆ โดยน้ำซุปที่ใช้จะผ่านการปรุงรส ได้แก่ น้ำตาล ซาเก มิริน และซอสถั่วเหลือง หลังจากนั้นรอทุกอย่างในหม้อเดือด เพียงเท่านี้ก็สามารถรับประทานได้แล้ว

หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้ผู้ที่อยากริเริ่มทำเมนูหมูสไตล์ญี่ปุ่น ได้รู้ทริคการตลาด และเมนูที่ทำได้ง่าย เหมาะแก่การลงทุน ทั้งนี้ หากคุณกำลังหาเนื้อหมู นำไปทำเมนูหมูสไตล์ญี่ปุ่น สามารถสั่งซื้อกับพิชชามีท เพราะเรามีหมูคุณภาพดี และมั่นใจได้ว่าปลอดสารเร่งเนื้อแดง ได้รับรองมาตรฐานจากภาครัฐ สำหรับผู้ที่สนใจติดต่อเพิ่มเติมได้ที่ Line: @pitchameat