บทความ

แจกเคล็ดลับ เปิดร้านขายส่งเนื้อหมู ให้ชนะคู่แข่งตั้งแต่เริ่ม

ขายส่งเนื้อหมู

การเป็นเจ้าของธุรกิจ นับเป็นความฝันของใครหลาย ๆ คน เพราะงานประจำในปัจจุบัน อย่าง พนักงานออฟฟิศ หรือพนักงานราชการ อาจไม่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ ที่ต้องการทำงานเป็นนายตัวเอง และต้องการคิดนอกกรอบ จึงทำให้ในหลายปีที่ผ่านมาธุรกิจ Startup และ SME เติบโตขึ้นเป็นอย่างมาก แต่การเริ่มทำธุรกิจ ไม่ใช่คิดวันนี้แล้วพรุ่งนี้ได้เงิน อีกทั้งการทำธุรกิจต้องอาศัยความทุ่มเท และความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาธุรกิจให้มั่นคง และประสบความสำเร็จ

สำหรับธุรกิจขายส่งเนื้อหมู เป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่ได้รับความสนใจ เนื่องจาก การเติบโตของร้านบุฟเฟต์ เช่น ร้านหมูกระทะ ร้านหมูย่างเกาหลี ร้านชาบู และร้านสุกี้หม่าล่า ซึ่งรวมไปถึงร้านอาหารตั้งแต่ร้านข้างทาง ไปจนร้านในห้างสรรพสินค้า ล้วนใช้วัตถุดิบต่าง ๆ จากหมู อย่างไรก็ตาม การทำธุรกิจย่อมมีการแข่งขัน เพราะฉะนั้นผู้ที่เริ่มต้นธุรกิจควรศึกษาหาข้อมูลเกี่ยวกับการทำธุรกิจที่สนใจ และมีเป้าหมายที่ชัดเจน ดังนั้น ในบทความนี้ พิชชามีท จะมาแจกเคล็ดลับเปิดร้านขายส่งเนื้อหมู ให้ชนะคู่แข่งตั้งแต่เริ่ม

สำรวจ ประเภทของคู่แข่งทางธุรกิจ ที่เจ้าของกิจการต้องรู้

ทุกวันนี้ไม่ว่าคุณจะทำธุรกิจอะไร ก็ย่อมมีคู่แข่งทางธุรกิจ อีกทั้งโมเดลของธุรกิจประเภทวัตถุดิบ และอาหารเริ่มเปลี่ยนไปจากการเข้ามาของ แพลตฟอร์ม เดลิเวอรี รวมถึงระบบขนส่งต่าง ๆ ที่พัฒนาเป็นอย่างมากจากอดีต ซึ่งหากต้องการให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ จำเป็นต้องวิเคราะห์คู่แข่งทางธุรกิจ เพื่อนำมาเปรียบเทียบกับสินค้า และบริการของเรา แต่คู่แข่งธุรกิจไม่ได้มีแบบเดียว จะมีอะไรบ้างตามมาดูกันได้เลย

  • คู่แข่งทางตรง

คู่แข่งทางตรง คือคู่แข่งขันในตลาด โดยมีเป้าหมาย สินค้า และบริการที่เหมือนกัน จนทำให้ลูกค้า หรือกลุ่มเป้าหมายมีทางเลือกในการซื้อ เช่น ร้านขายไก่ทอด อย่าง KFC vs Mcdonald หรือร้านบุฟเฟต์ อย่าง ตี๋น้อย vs สุกี้จินดา

  • คู่แข่งทางอ้อม

คู่แข่งทางอ้อม คือคู่แข่งที่อยู่ในธุรกิจประเภทเดียวกัน แต่อาจขายสินค้า และบริการไม่เหมือนกับร้านของเรา และมีกลุ่มลูกค้าที่ใกล้เคียงกัน เช่น ร้านขายลูกชิ้นกับร้านขายหมึกที่มีประเภทธุรกิจเป็นสตรีทฟู้ดเหมือนกัน แต่ตัวสินค้ามีความต่างกัน หรือร้านขายส่งเนื้อหมู กับร้านขายส่งอาหารทะเล ซึ่งทั้งสองธุรกิจมีการขายวัตถุดิบ สำหรับปรุงอาหารเหมือนกัน แต่มีประเภทของวัตถุดิบที่แตกต่างกัน

ทั้งนี้ เมื่อเราทราบว่าคู่แข่งทางตรง และคู่แข่งทางอ้อม สิ่งถัดไปที่ควรทำคือ Compentition Analysis หรือการวิเคราะห์การแข่งขัน จะช่วยให้สามารถเข้าถึงจุดอ่อน และจุดแข็ง เพื่อให้เราเข้าใจภาพรวม และนำไปวางกลยุทธ์ที่สร้างความแตกต่าง เพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันทางการตลาด

แนะแนว อยากเป็นเจ้าของธุรกิจขายส่งเนื้อหมู ต้องเตรียมตัวอย่างไร

ในธุรกิจขายส่งเนื้อหมูมีคู่แข่งทางการตลาดสูง โดยมีธุรกิจเขียงหมูในตลาดสดไปจนถึงซูเปอร์มาร์เก็ตของบริษัทใหญ่ ที่ครองส่วนแบ่งในการตลาดนี้เป็นอย่างมาก อีกทั้งธุรกิจขายส่งเนื้อหมูมีการใช้เงินทุนที่สูง เช่น ค่าเครื่องจักร ค่าแรงงาน ค่าทำฟาร์มหมู และอื่น ๆ จึงทำให้ผู้เริ่มธุรกิจควรมีการเตรียมพร้อมมาเป็นอย่างดี ซึ่งก่อนเริ่มธุรกิจต้องมีการเตรียมตัว ดังนี้

  • รู้จักตัวเอง

การประเมินตนเองก่อนเป็นผู้ประกอบการ ถือเป็นเรื่องพื้นฐานของการทำธุรกิจ เช่น คุณมีความเชี่ยวชาญอะไร พร้อมรับมือกับความเสี่ยงหรือไม่ และเป้าหมายการทำธุรกิจคืออะไร ซึ่งคำถามเหล่านี้ จะช่วยให้ธุรกิจของเรามั่นคง อีกทั้งการทำธุรกิจไม่มีสูตรสำเร็จ เพราะแต่ละคนมีความรู้ และความสามารถที่แตกต่างกัน ดังนั้นควรหาจุดเด่น หรือสร้างความแตกต่าง ถ้าหากต้องการทำธุรกิจรูปแบบเดียวกับคนอื่น

  • ศึกษาลูกค้า

การทราบถึงกลุ่มเป้าหมายว่าต้องการอะไร ซึ่งหากกำหนดกลุ่มลูกค้าที่แคบเกินไป ก็อาจทำให้ธุรกิจไปได้ไม่ไกล หรือเจ๊งได้ ดังนั้น เมื่อทราบว่าลูกค้าของเราเป็นใคร จะช่วยให้เรารู้ถึงความต้องการของลูกค้า เพื่อเสนอสิ่งที่ลูกค้าต้องการมากที่สุด ทั้งนี้ควรมีการวางกลยุทธ์แบบแผนสำรอง เพื่อป้องกันเหตุฉุกเฉินที่ไม่คาดคิด

  • สำรวจตลาด

การสำรวจตลาด คือ การคาดการสถานการณ์ของตลาด ว่าในปัจจุบันมีใครทำอยู่แล้วบ้าง มีจุดอ่อน-จุดแข็งอย่างไร และการแยกแยะคู่แข่งในกลุ่มต่าง ๆ ออกเป็นหมวดหมู่ เป็นต้น

  • แหล่งเงินทุน

การเริ่มต้นธุรกิจ ควรเริ่มจากเงินทุนของตัวเอง มากกว่าการกู้เพื่อสร้างธุรกิจ เพราะธุรกิจที่เริ่มต้น เราไม่สามารถรู้เลยได้ว่าจะทำกำไรหรือไม่ อีกทั้งดอกเบี้ยจากการกู้ ที่อาจเยอะจนทำให้รายจ่ายขาดความคล่องตัว แต่หากมีทุนเริ่มต้นธุรกิจน้อย ก็สามารถหาพาร์ตเนอร์ หรือผู้ร่วมลงทุน 

โดยควรเลือกผู้ที่มีความสนใจแบบเดียวกัน และมีการทำข้อตกลงสัญญาอย่างถูกต้อง ทั้งนี้อย่าลืมเงินทุนสำรองที่ต้องเตรียมไว้ถึง 6 เดือน เพื่อป้องกันหากเกิดข้อผิดพลาด ระหว่างดำเนินกิจการขึ้นมา

เผยเคล็ดลับ เปิดร้านขายส่งเนื้อหมูให้ชนะคู่แข่งตั้งแต่เริ่ม

ในปัจจุบัน เป็นยุคที่มีการแข่งขันทางการตลาดสูงมาก ซึ่งวิธีรักษาการเติบโตของธุรกิจให้มียอดขายอย่างต่อเนื่อง คือ การเข้าไปแย่งส่วนแบ่งทางการตลาดจากคู่แข่งขัน โดยสามารถทำได้ ดังต่อไปนี้ 

  • เลือกทำเล

การเลือกทำเลให้เหมาะสม ควรเลือกทำเลที่มองเห็นได้ง่าย และใกล้กับกลุ่มเป้าหมาย โดยสามารถเข้าถึงร้านขายส่งเนื้อหมูได้อย่างสะดวก เช่น ที่จอดรถ หรือระยะทางการเดิน อีกทั้งในพื้นที่ดังกล่าวต้องมีความสะอาดถูกสุขลักษณะอนามัย เพื่อให้ลูกค้าเห็นมาตรฐานที่ดีของร้าน 

  • คุณภาพ

สิ่งที่สามารถรักษาลูกค้าเก่า และดึงดูดลูกค้าใหม่ได้ คือ คุณภาพของสินค้าที่จะเป็นตัวช่วยตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างแท้จริง เพราะหากลูกค้าได้รับสินค้าที่ได้รับความเสียหาย และมีคุณภาพไม่ดี เช่น เนื้อหมูมีสีเขียว ขนาดแต่ละชิ้นไม่เท่ากัน หรือพนักงานบริการไม่ดี จะทำให้ลูกค้าไม่กลับมาซื้อสินค้าอีก

  • การบริการ

การซื้อใจลูกค้า ด้วยการจัดโปรโมชัน เช่น การลดราคา หรือแจกสินค้าตัวอย่าง เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายได้ทดลองใช้สินค้า และเกิดความสนใจในผลิตภัณฑ์ นอกจากนี้ เราต้องสร้างความประทับใจ ไม่ว่าจะเป็น ความเป็นมิตร พูดจาดี และยิ้มแย้มแจ่มใสระหว่างให้บริการ 

  • เพิ่มช่องการขาย

การเปิดร้านขายส่งเนื้อหมู ไม่ได้ถูกจำกัดแค่ขายเพียงหน้าร้านเท่านั้น  แต่เราสามารถเพิ่มช่องทางการขาย เพื่อกำไร และความสะดวกแก่ลูกกค้า เช่น การขายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์บนโซเชียลมีเดีย Facebook Instagram Line หรือ TikTok 

นอกจากเป็นตัวช่วยโปรโมตสินค้าแล้ว ยังสามารถทำให้ลูกค้าติดต่อกับเราได้อย่างสะดวก อีกทั้งการขายผ่าน Delivery ที่ทำให้ลูกค้าได้รับวัตถุดิบโดยไม่ต้องออกไปตลาด หรือซูเปอร์มาร์เก็ต ก็เป็นวิธีการที่ดี

ทั้งนี้ ทางพิชชามีทมีบริการจัดจำหน่ายขายส่งเนื้อหมูที่ได้มาตรฐาน และได้รับการการันตีคุณภาพจากทางภาครัฐ  ไม่ว่าจะอยู่ในเขตกรุงเทพฯ หรือต่างจังหวัด หากท่านต้องการสินค้า พิทชามีทจัดส่งได้ถึงที่ และสำหรับใครที่สนใจ สามารถติดได้ที่ Line: @pitchameat

เรื่องที่เกี่ยวข้อง